Q & A

จุดที่ต้องพิจารณามีดังนี้

• ราคาดังกล่าว เป็นเพียง “ราคาตั้ง ทางการตลาด” เพื่อให้เกิดความรู้สึกว่าถูกมาก คุ้มมาก หรือไม่
• การเหมา 3,000 กราฟ หมายถึง จะทำให้ 3,000 กราฟ จริงๆ หรือ จะทำภายใน 3,000 (ไม่ทราบจำนวนกราฟแน่นอน อาจจะ 500 หรือ 800 กราฟ ก็ได้ ตามแต่ผู้ให้บริการเห็นสมควร ไม่ผิดเงื่อนไขของโปรโมชั่นนั้น) ซึ่งการไม่รู้จำนวนกราฟแน่นอนเช่นนี้ ทำให้คนไข้เป็นฝ่ายเสียเปรียบ หรือไม่
• ถ้าผู้ทำ รับปากจะทำให้ 3,000 กราฟ คนไข้ควรต้องย้อนกลับไปดู ผลงานของผู้ให้บริการนั้นๆ ว่า เคยมีเคสทำ 3,000 กราฟจริงๆ ( เกือบเต็มศีรษะ แบบแน่นสวยงาม) ปรากฏให้เห็นในwebsite นั้นๆหรือไม่ หรือมีเพียงภาพทำไรผม ขอบผม หรือง่ามเล็กๆ โชว์อยู่
• ถ้าผู้ทำ ใช้เงื่อนไข โปรโมชั่น ภายใน 3000 กราฟ ดังกล่าว แต่แจ้งว่า ทำจริง 1200 กราฟ ก็ต้องมาพิจารณาดูว่า แม้แต่ 1,200 กราฟ ที่ว่านั้น คนไข้ได้รับมาจริงๆหรือเปล่า
• การรู้จำนวนกราฟแน่นอน เป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้คนไข้รู้ว่า ผู้ให้บริการนั้น ไว้ใจได้หรือไม่
• ส่วนใหญ่ คลินิกปลูกผมชั้นนำทั่วโลกจะใช้ระบบ แจ้งจำนวนกราฟผมที่แน่นอน และชัดเจน ไม่ค่อยมีการเหมา
• ส่วนใหญ่ คลินิกปลูกผมชั้นนำทั่วโลก จะให้แพทย์เป็นผู้ตรวจประเมิน ไม่ใช้เซลล์เป็นผู้ประเมิน ทาง line หรือ ทาง inbox เพราะการปลูกผม ควรเป็นเรื่องระหว่างแพทย์กับคนไข้ มิใช่คนไข้ กับเซลล์ (ถ้าคนประเมิน มิได้เป็นคนปลูก คนไข้อาจเสียประโยชน์ได้)
• ลองตรวจสอบราคาดูหลายๆที่ ถ้ามาตรฐานราคาทั่วไปอยู่ที่ระดับหนึ่ง แต่มีบางที่เสนอราคาถูกโดดออกมา ต้องคิดว่าราคาดังกล่าวเป็นไปได้จริงๆกับคุณภาพที่คาดหวัง หรือไม่

อันที่จริง เลเซอร์อบผม มีแถมกันแทบทุกที่อยู่แล้ว แต่คนไข้ต้องทราบความจริงว่า

• เราเดินทางมาถึงการย้ายเซลล์ปลูกผมแล้ว ซึ่งเป็นการรักษาในระดับสูงสุด การอบผมเลเซอร์ จึงทำหน้าที่เป็นเพียง “น้ำจิ้ม” เพื่อบำรุงผมเล็กน้อยเท่านั้น และน่าจะมีประโยชน์ในแง่ของการตลาดมากกว่า
• การตัดสินใจปลูกที่ไหน จึงควรดูว่า “ปลูกขึ้นดีหรือไม่” มากกว่าที่จะดูว่า “แถมอบผมกี่ครั้ง”
• ลำแสงที่ใช้อบผมดังกล่าว ถ้าทำพอสมควร บำรุงผมได้ แต่ถ้าทำมากๆ หรือทำไม่ถูกช่วงเวลา อาจทำให้ผมร่วงมากขึ้น

** อย่างไรก็ตาม เมดิเรนคลินิกมีการแถมเลเซอร์บำรุงผม แต่จะให้ทำเมื่อผมปลูกขึ้นดีเต็มที่แล้ว เพราะเรามั่นใจว่าเราปลูกขึ้น ไม่ต้องหวังตัวช่วย **

เราคิดว่าไม่จำเป็น เพราะ

• การปลูกผม ไม่ต้องเดินทางไปมาคลินิกบ่อยๆ เพราะส่วนใหญ่ปลูกครั้งเดียววันเดียวจบ
• บางครั้ง อยู่กลางเมืองก็แออัด รถติด ไม่มีที่จอดรถ และไม่เป็นสัดส่วน และ คงรู้สึกไม่ดีแน่ๆ ถ้าคนไข้ไปปลูกผม แต่ต้องนั่งเปิดผมรอ ร่วมกับคนทำศัลยกรรมอย่างอื่น

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลลัพธ์แตกต่างกัน คือ

1. ประสบการณ์ ความชำนาญ (ชั่วโมงบิน) ที่แตกต่างกัน ส่งผลอย่างมากต่อคุณภาพของงาน แมัจะมีใบคุณวุฒิเหมือนกันก็ตาม เปรียบเหมือนทนายความ เป็นทนายเหมือนกันแต่ไม่ได้เก่งทุกคน
2. ระบบไม่เสถียร ไม่นิ่ง
   การปลูกผมเป็นหัตถการเดียวที่มีรายละเอียดสูงมาก ถ้าผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ผมก็ไม่ขึ้น หรือขึ้นแต่ไม่สวยงาม ระบบห้องผ่าตัดและทีมงานควรทำเฉพาะปลูกผม และต้องไม่ใช้ห้องผ่าตัดหรือทีมงานสลับไปทำจมูก ทำตา หรือทำอย่างอื่น เพราะจะทำให้ระบบปลูกผมทั้งหมดเสียหายได้
3. ต้องควบคุมค่าใช้จ่าย ให้คุ้มกับโปรโมชั่นเหมาถูก และ คุ้มกับการโหมโฆษณา
   โดยควบคุมให้สอดคล้องกับนโยบายของเจ้าของกิจการ และแบ่งรายได้จำนวนมากลงไปกับงบโฆษณา แล้วจึงเอาส่วนที่เหลือเพียงเล็กน้อย มาลงทุนในส่วนที่สำคัญที่สุด นั่นคือการปลูกผม โดยเฉพาะเมื่อยิ่งเหมาจ่ายถูกๆ มากๆ แล้วไม่ระบุจำนวนกราฟผมแน่นอน จึงเกิดความเสี่ยงมากตามไปด้วย หรืออาจทำจริงไม่ได้ครบตามที่ตกลงกันไว้

ที่นี่เราไม่ทำ เพราะการกระทำดังกล่าวไม่ได้อยู่ในมาตรฐานของการปลูกผม และเราไม่ใช้คนไข้ของเราเป็นเคสทดลองอย่างเด็ดขาด และในความเห็นส่วนตัว (โปรดใช้วิจารณญาณ) การกระทำดังกล่าวอาจเกิดจากการที่ต้องการดึงเศษผมเสียออกหรือไม่ นั่นหมายความว่ามีเศษผมเสียมากมายหรือไม่ เป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนถึงความไม่เป็นระบบ และไม่มีความแม่นยำ

การปลูกได้จริงต้องปลูกแล้วผมขึ้นสวยงามทุกเคสหรือแทบทุกเคส การที่มองเพียงภาพใดภาพหนึ่งจะบ่งบอกไม่ได้แน่ชัด เพราะถ้าทำหลายเคสแต่ผมขึ้นไม่กี่เคส แล้วนำเคสที่ผมขึ้น(มักจะเป็นเคสเล็กๆ) นำมาโฆษณา ก็เป็นได้ หรือทำเคสเล็กๆแล้วผมเสียหายมาก เรามองจากภาพด้านหน้าเห็นผมขึ้น ไม่ถึง 500 กราฟ แต่พอดูด้านหลังพบว่าผมเสียหายไปกว่า 2,000 กราฟก็เคยปรากฏ ดังเช่นในเคสที่มาขอให้เราแก้งานให้

** การทดลองปลูกจากแรงโฆษณาเหมาถูกๆ แล้วผมไม่ขึ้นหลายๆครั้ง อาจทำให้ไม่เหลือผมที่จะปลูกอีก จนเมื่อวันหนึ่งพร้อมที่จะปลูกผมอย่างจริงจัง แต่กลับไม่มีโอกาสทำได้แล้ว แม้จะมีเงินมากเพียงไร เนื่องจากผมต้นแบบ (DONOR) หายไปเกือบหมด โดยที่ผมด้านหน้าก็ไม่ขึ้น หรือขึ้นไม่สวยงาม